Transformation: Domain, Range and Inverse
ย้ำคำเดิมอีกที ... การแปลง (Transformation) มันก็คือฟังก์ชัน (Function) น่ะแหละ ดังนั้น มันต้องมีโดเมนกับเรนจ์ และอาจจะมีอินเวอร์ส
สมมติให้ T เป็นการแปลงที่มีโดเมนเป็น D และเรนจ์เป็น R
เงื่อนไขการมีอินเวอร์สของการแปลง ก็คือ (ทวนของเก่านิดนึงอะนะ)
- x, y ∈ D → [T(x) = T(y) ↔ x = y]
- y ∈ R → จะมี x ∈ D ที่ทำให้ T(x) = y
เรามักจะเขียนว่า T:A → B เพื่อบอกว่า A เป็นโดเมนของ T และ เรนจ์ของ T เป็นสับเซตของ B นะ
Bijection
สั้น ๆ ก็คือ "ถ้า T เป็น bijection จาก A ไป B แปลว่า T เป็นฟังก์ชันที่มีอินเวอร์ส"
Finite, Infinitely Countable, Uncountable
- เซต A จะเป็นเซตจำกัด (Finite) ก็ต่อเมื่อ มันมีจำนวนสมาชิกจำกัดไง ... (จะบอกทำไมเนี่ย - -'')
- เซตจำกัดทุกเซต นับได้ (Countable)
- เซต A จะเป็นเซตไม่จำกัด แต่นับได้ (Infinitely Countable หรือ Countably Infinite) ถ้าสามารถหา Bijection จาก A ไป Z (เซตของจำนวนเต็มหนะ) ได้
- เซต A จะเป็นเซตนับไม่ได้ (Uncountable) ถ้ามันไม่จำกัด และนับไม่ได้
- ถ้า A ⊆ Z และ A เป็นเซตไม่จำกัด แล้ว A จะนับได้
- Q (เซตของจำนวนตรรกยะ) นับได้
- ถ้า A และ B นับได้ A ∪ B กับ A × B จะนับได้
- R × A จะนับได้ก็ต่อเมื่อ A = ∅
- ช่วง [a, b] (a, b) [a, b) และ (a, b] จะนับไม่ได้ก็ต่อเมื่อ a < b (คือ โดยทั่วไป มันจะนับไม่ได้หนะ)
- x + a ⇒ (s, t) → (s + a, t + a)
- ax ⇒ (s, t) → (as, at)
- tan x ⇒ (-π/2, π/2) → (-∞, ∞)
- ex ⇒ (-∞, ∞) → (0, ∞)
- x + y(y + 1)/2 ⇒ (Z+ ∪ {0}) × (Z+ ∪ {0}) → (Z+ ∪ {0})
ก่อนจะเอาให้ดู ขอตกลงเครื่องหมายนิดนึงก่อน เพื่อให้เขียนง่ายขึ้น
[P] เมื่อ P เป็น predicate จะมีค่าเป็น 1 ถ้า P เป็นจริง และเป็น 0 ถ้า P เป็นเท็จ
เอาหละ ต่อไปนี้คือ bijection ตัวอย่างอีกตัวนึง
- [x ∈ Z] + x ⇒ [0, ∞) → (0, ∞)
Cardinal Numbers
สำหรับเซตนับได้ Cardinal Number ของมันก็คือ จำนวนสมาชิกนั่นเอง ดังนั้น วิธีเขียน cardinal number ของเซต A ก็คือ |A|
คุณสมบัติสำคัญของ cardinal number ก็คือ ถ้าสามารถหา bijection จาก A ไป B ได้ เราจะรู้ว่า |A| = |B|
สำหรับเซตอนันต์ เค้าก็มีการนิยาม cardinal number ไว้เช่นกัน ดังนี้
|Z| = ℵ0
|R| = c
|R| = c
โดยที่ ℵ0 คือ cardinal number ที่น้อยที่สุดของเซตอนันต์ (มันเลยห้อย 0 ไง) จะว่าไปก็คือ Z คือเซตอนันต์ที่ "เล็ก" ที่สุดน่ะแหละ
แล้วเค้าก็มีสมมติฐานอันนึง ชื่อว่า Continuum Hypothesis ซึ่งบอกว่า ไม่สามารถหาเซต A ที่ทำให้ ℵ0 < |A| < c ได้ ... เน้นว่าเป็น สมมติฐาน นะ เพราะว่า มันไม่สามารถพิสูจน์ได้ (ด้วยระบบเซตแบบ Cantor)
คราวนี้ เราอาจจะสรุปบางอย่างได้สะดวกขึ้น เช่น
- ถ้า a < b แล้ว | (a, b) | = | [a, b) | = | (a, b] | = | [a, b] | = c
- |2Z| = 2ℵ0 = c
- c2 = c × c > c
- ถ้า |A| = ℵ0 และ 0 < |B| ≤ ℵ0 แล้ว |A × B| = ℵ0
- ถ้า |A| = c และ 0 < |B| ≤ ℵ0 แล้ว |A × B| = c
ลองเอาการแปลงที่เคยพูดถึงแล้ว ในเรื่อง Discrete vs Continuous: ฟังก์ชัน เวกเตอร์ และเมตริกซ์ มาดูกันดีกว่า ว่า อันไหนมีโดเมนกับเรนจ์เป็นอะไรบ้าง (ขอละเว้นกรณีจำนวนเชิงซ้อน กับเงื่อนไขบางอย่าง ทิ้งไปก่อนนะ)
- Discrete Fourier Transform
⇒D = {f | f:Zn → R}, R = D - Fourier Series
⇒D = {f | f:[-L, L] → R}, R = {f | f:Z → R} - Fourier Transformation
⇒D = {f | f:R → R}, R = D - Generating Function
⇒D = {f | f:Z+ → R}, R = D - Z Transformation
⇒D = {f | f:Z+ → R}, R = D - Laplace Transformation
⇒D = {f | f:R+ → R}, R = D
2 Comments:
ไม่ค่อย up space เลยเนอะ ไม่ค่อยเห็นเลย เป็นไงมั่งล่ะคุณ
มาตามอ่านครับ
(แถวนี้มีคนประชด นั่งพิมพ์ยาวๆด้วยล่ะ)
Post a Comment
<< Home